วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ศาลหลักเมืองสุรินทร์




  ประวัติและความเป็นมา

              ศาลหลักเมืองสุรินทร์ เป็นสถานที่สำคัญ และเป็นที่นับถือคู่บ้านคู่เมืองของชาวสุรินทร์ อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดไปทางทิศตะวันตกประมาณ 500 เมตร เดิมเป็นเพียงศาลไม่มีเสาหลักเมือง มีมานานกว่าร้อยปี เมื่อปี พ.ศ. 2511      กรมศิลปากรได้ออกแบบสร้างศาลหลักเมืองใหม่ เสาหลักเมืองเป็นไม้ชัยพฤกษ์มาจากนายประสิทธิ์ มณีกาญจน์ อำเภอ  ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเสาไม้สูง 3 เมตร วัดโดยรอบเสาได้ 1 เมตร ทำพิธียกเสาหลักเมืองและสมโภช  เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2517
                ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้น  เมื่อชาวบ้านพบถนนคอนกรีตที่ใช้เป็นสัญจรไปมา  ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณศาล  มีรอยแยกของถนนอย่างเห็นได้ชัด  ต่อมาถนนเริ่มยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ  รถยนต์วิ่งผ่านไม่สะดวก  หรือบางคันที่วิ่งผ่านต้องมีเหตุให้เครื่องยนต์ดับ  จนต้องหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางบริเวณจุดตรงนี้  จากความผิดสังเกตของรอยแตกและยกตัวของถนนคอนกรีต  จนสามารถมองเห็นช่องเป็นโพรงใหญ่อย่างชัดเจน  ชาวบ้านบางคนลองเอามือล้วงเข้าไปในโพรงดังกล่าว   บอกว่ารู้สึกถึงไอความร้อน ณ บริเวณนั้น  จนอดที่จะแปลกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้     เมื่อแรกขุดเจอพระพุทธรูปนาคปรก  ต่อมาก็ได้พบกับวัตถุโบราณในบริเวณใกล้เคียง  มีทั้งเครื่องลางรูปพญานาคที่ทำด้วยทองเหลือง  เครื่องลางเป็นรูปพระนารายณ์นั่งคู่กับพระนางลักษมี ซึ่งมีพระพิฆเณศอยู่ตรงกลางด้านหน้าทำด้วยทองเหลือง   รวมทั้งพระเครื่องดินเผาและกำไลโบราณทั้งหมดจำนวนมาก อายุราว 200 ปี   เมื่อได้ขุดลึกลงไปอีกจึงได้พบกับเครื่องปั้นภาชนะดินเผา เชื่อว่าน่าจะมีการสร้างสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีอายุราว 1,500 - 2,000 ปี  สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก  ชาวบ้านได้นำมาตั้งไว้บูชา ณ ศาลหลักเมืองที่บริเวณใกล้เคียง





         ต่อมา วันที่ 21 ส.ค. 2515  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธีเจิมเสาหลักเมือง ณ ตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต และพระราชทานดำรัสว่า การสร้างเสาหลักเมืองนี้ดี เป็นหลักแหล่งความสามัคคี ขอให้ชาวสุรินทร์จงมีความสามัคคีกัน สร้างความเจริญก้าวหน้า และขอให้ชาวสุรินทร์จงมีความร่มเย็นเป็นสุข




พ.ศ. 2513 นายสอง (สองเมือง)  ศรีสุรินทร์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลศาลเจ้าพ่อหลักเมืองที่ทรุดโทรมมาก จึงได้รับเป็นผู้จัดหาเงิน โดยได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา โดยการฝึกเด็กหนุ่มในจังหวัดสุรินทร์ เล่นสิงห์โต ออกเล่นคาราวะชาวบ้านในจังหวัด และอำเภอต่างๆ ในจังหวัดสุรินทร์ เพื่อขอรับบริจาคจนเพียงพอกับการก่อสร้างศาลเจ้าพ่อหลักเมือง














 


 






















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น